วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Greenovation Green Building นวัตกรรมอาคารสีเขียว SCG

เอสซีจี เป็นบริษัทหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจด้วยความ มุ่งมั่นสู่การเป็นธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือ Green Business ด้วย 2 กลยุทธ์หลัก คือ 1. กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Process) และ 2.การวิจัยและพัฒนาสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Products) มาโดยตลอดการทำดำเนินงานธุรกิจ

ดังนั้น เอสซีจีจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาคารให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ บางซื่อ ที่ใช้งานมานานกว่า 25 ปี ให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล โดยมีเป้าหมาย ดังนี้

1.พัฒนาที่ตั้งอย่างยั่งยืน (Sustainable Site) คำนึงถึงผลกระทบของอาคารต่อระบบนิเวศวิทยา อาทิ เลือกใช้วัสดุที่มีค่าสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์สูงเพื่อลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร จัดสรรพื้นที่สีเขียวสำหรับปลูกต้นไม้ ออกแบบให้มีพื้นที่กักเก็บนํ้าฝนเพื่อนำนํ้าไปใช้รดต้นไม้ ป้องกันผลกระทบจากการก่อสร้าง และลดปรากฏการณ์เกาะร้อน (Heat Island) หรือปรากฏการณ์ที่พื้นที่บริเวณกลางเมืองมีอุณหภูมิสูงกว่าบริเวณโดยรอบ

2. ใช้นํ้าอย่างมีประสิทธิภาพ (Water Efficiency) ลดการใช้นํ้าประปาในอาคารโดยเลือกใช้สุขภัณฑ์ฟลัชวาล์วและก๊อกนํ้าประหยัดนํ้าประสิทธิภาพสูง นำนํ้าฝนหรือนํ้าเสียจากอาคารที่บำบัดแล้วไปใช้รดต้นไม้ รณรงค์ให้พนักงานช่วยกันประหยัดนํ้า และแจ้งหน่วยงานซ่อมบำรุงทันทีโดยไม่นิ่งเฉยเมื่อพบจุดรั่วไหล


3.ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Energy and Atmosphere) ส่งเสริมให้ใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบอุปกรณ์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพที่พร้อม ใช้งาน เปลี่ยนระบบทำความเย็นของอาคารโดยเลือกใช้สาร ทำความเย็นประเภทที่ส่งผลกระทบน้อยที่สุดต่อการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าตามมาตรฐาน Energy Star และอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่ประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานทดแทนด้วยการติดตั้งกระเบื้องหลังคาเซรามิกที่มีแผงผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ (Solar Cell)

4.เลือกใช้วัสดุที่มีส่วนผสมรีไซเคิลหรือวัสดุในท้องถิ่น (Materials and Resources) เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยเริ่มตั้งแต่การคัดแยก ชนิด ประเภทของของเสียเพื่อนำกลับไปรีไซเคิล พัฒนาผลิตภัณฑ์กระเบื้องเซรามิกสำหรับปูพื้น ผนัง และฝ้าเพดานที่ใช้วัตถุดิบจากของเสียหรือผลิตภัณฑ์จากการรื้อถอนหลังการ ใช้งานแล้ว ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณของเสียแล้วยังช่วย ลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตได้ด้วย

5.พัฒนาคุณภาพสภาพแวดล้อมภายในอาคาร (Indoor Environmental Quality) ควบคุมมลภาวะในอาคารสำนักงานให้มีน้อยที่สุดและไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้อาคารด้วยการเลือกใช้วัสดุหรือครุภัณฑ์ ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ ควบคุมสภาวะอากาศภายในอาคาร ให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานโดยปรับอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ที่พอเหมาะและควบคุมปริมาณ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

นอกจากนี้ เอสซีจี ยังได้พัฒนาระบบหลังคาเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เรียกว่า Roof Garden หรือ สวนหลังคา ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านระบบหลังคาที่ผสมผสานธรรมชาติและเทคโน โลยีการก่อสร้างสมัยใหม่ ด้วยการออกแบบจำลองหลังคาสีเขียว เพิ่มความสวยงามบนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างภายในเมือง เหมาะกับหลังคาบนอาคารประเภทคอนโดมิเนียม หรือ ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นที่กำลังได้รับความนิยมจากคนในเมือง

ทั้งนี้ นวัตกรรมสวนหลังคายังมีส่วนช่วยลดโลกร้อน และลดภาวะเกาะร้อน (Heat Island Effect) หรือปรากฏการณ์ที่พื้นที่บริเวณกลางเมืองมีอุณหภูมิสูงกว่าบริเวณโดยรอบ เนื่องจากคุณสมบัติของต้นไม้ที่คายออก ซิเจนในเวลากลางวัน และช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยกรองมลพิษจากอากาศ และป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านหรืออาคาร จึงช่วยประหยัดพลังงาน และค่าใช้จ่ายจากเครื่องปรับอากาศด้วย สวนหลังคาของเอสซีจีนี้ ถือเป็นนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ตอบสนองให้คนในสังคมเมือง ที่มีพื้นที่ จำกัด แต่ยังสามารถอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และยังได้ มีส่วนร่วมในการดูแลรักษ์โลกอีกทางหนึ่ง


source : http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413354829

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น