วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กฟผ.ปัดฝุ่นดันใช้โรงไฟฟ้า"ถ่านหิน" ปั๊มน้ำมันจี้รัฐชัดเจนเลิกใช้เบนซิน91

กฟผ.เร่งเดินหน้าผลักดันแผนการใช้ "ถ่านหิน" เป็นวาระแห่งชาติ ระบุจำเป็นต้องใช้ เหตุอีก 15-20 ปีก๊าซธรรมชาติหมดแน่ แจงเร่งทำประชาสัมพันธ์ชุมชน ด้านบางจากวอนรัฐบาลใหม่กำหนดนโยบายยกเลิกเบนซิน 91 ให้ชัดเจน เพื่อเตรียมวางแผนเดินหน้าขยายการลงทุนพลังงานทดแทนได้ถูก

 นายธวัช วัจนะพรสิทธิ์ รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.อยู่ระหว่างทำแผนลดการใช้ก๊าซธรรมชาติ โดยเสนอให้ใช้ถ่านหินเป็นวาระแห่งชาติแทนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่กระแสต่อต้านเพื่อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับในระยะยาวได้ เพราะปัจจุบันประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าถึง 70% และคาดว่าอีกประมาณ 15-20 ปี ปริมาณก๊าซในอ่าวไทยจะหมดลง

 “แม้ว่าจะมีแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) เข้ามาแทน แต่ก็ยังมีราคาแพงถึง 400 บาทต่อล้านบีทียู ขณะที่ราคาก๊าซในอ่าวไทยอยู่แค่ 200 บาทต่อล้านบีทียู ซึ่งจะมีผลต่อค่าไฟฟ้าในอนาคต ดังนั้นจึงต้องมีการปรับแผนลงพื้นที่เพื่อทำมวลชนสัมพันธ์ของโรงไฟฟ้าถ่านหินมากขึ้น เพราะที่ผ่านมายังไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชนเลย ซึ่งหากเป็นแบบนี้อาจกระทบต่อแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (พีดีพี 2011) ที่โรงแรกจะเข้าระบบช่วงปี 2562” นายธวัชกล่าว

 อย่างไรก็ตาม จากปัญหาท่อก๊าซฯ ในทะเลรั่ว ทำให้ปริมาณก๊าซหายไป 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันนั้น ทำให้ต้องจ่ายชดเชยค่าเชื้อเพลิงสูงถึง 3,000 ล้านบาท และโรงไฟฟ้า 1 แห่งต้องใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6-7 ปี จึงอยากให้รัฐบาลกำหนดเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อวางแผนในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ

 นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อยากให้รัฐบาลชุดใหม่นี้มีความชัดเจนเรื่องการส่งเสริมพลังงานทดแทนที่เป็นรูปธรรม เพราะปัจจุบันมีแต่ตั้งเป้า 20% แต่ไม่มีการกำหนดยุทธศาสตร์ ทำให้เอกชนหรือผู้ค้าน้ำมันไม่สามารถกำหนด นโยบายการดำเนินงานได้ นอกจากนี้ยังทำให้การส่งเสริมให้ใช้เอทานอลยังไม่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ใช้อยู่ 1.4 ล้านลิตรต่อวัน

 “ปัจจุบันบางจากมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 2 รองจาก บมจ.ปตท. หากรัฐบาลมีความชัดเจนเรื่องการยกเลิกจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ภายใน 1-2 ปีนี้ ก็จะทำให้ปริมาณการผลิตเอทานอลเพิ่มขึ้น 8 แสนลิตรต่อวันทันที ซึ่งตามแผนแล้วบางจากมีนโยบายขยายปั๊มน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 ให้ครบ 500 แห่ง ภายในสิ้นปี 2554 นี้ ขณะนี้มีอยู่ 480 แห่ง ส่วนปั๊มอี 85 นั้นตั้งเป้า 300 แห่ง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับนโยบายของรัฐบาล” นายอนุสรณ์กล่าว

 นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเตรียมข้อมูลเพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ เพื่อพิจารณาว่าจะเปิดหน้าโครงการจัดประมูลซื้อถังเอ็นจีวีและอุปกรณ์ส่วนควบต่อหรือไม่และอย่างไร แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีปัญหามาตลอด โดยจะพยายามทำให้รอบคอบมากขึ้น แต่ทั้งนี้การตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม กบง.ที่มี รมว.พลังงานเป็นประธาน

 “ที่ผ่านมาประสบปัญหาบริษัท ออโต้แพน จำกัด ซึ่งการประมูลจัดหาถังและอุปกรณ์ส่วนควบ แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงได้ยึดเงินประกันและอยู่ระหว่างดูข้อกฎหมายเพื่อฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ยื่นสมัครเข้าโครงการมาเพียง 5,834 คัน จากเป้า 30,000 คัน เนื่องจากแท็กซี่รอไม่ไหวจึงหันไปดำเนินการติดตั้งเอง” นายคุรุจิตกล่าว.

source : http://www.thaipost.net/news/090811/43055

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น