กรุงเทพฯ 16 ส.ค. - รมว.พลังงาน ปัดฝุ่นโครงการแลนด์บริดจ์ ยืนยันทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลจะเดินหน้ากองทุนเพื่อความมั่งคั่ง แม้ประธานบอร์ดแบงก์ชาติจะคัดค้านก็ตาม ระบุเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมีไว้เพียง 5-6 เดือน ก็เพียงพอ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าจะปัดฝุ่นโครงการแลนด์บริดจ์ในภาคใต้ เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานไทยเพิ่มเติม ซึ่งจะมีทั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โครงการท่อน้ำมัน โดยจะชี้แจงและรับฟังความเห็นประชาชนควบคู่กันไป ส่วนโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวายของพม่า ที่รัฐบาลชุดเดิมสนับสนุนนั้น ในเรื่องนี้ยังไม่ทราบว่าจะเกิดได้เมื่อใด และไกลจากพื้นที่อีสเทิร์นซีบอร์ดของไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ลงทุนหลัก ดังนั้นหากมีการลงทุนในประเทศเองจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า
นอกจากนี้ ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลจะมีการหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยในการจัดตั้งกองทุนเพื่อความมั่งคั่งต่อ แม้ว่าล่าสุด ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคระกรรมการ ธปท. จะไม่เห็นด้วยก็ตาม โดยคงจะต้องหารือและทำความเข้าใจกันว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่ในขณะนี้มีสูงถึง 1.87 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นวงเงินที่สูงมาก ใช้อย่างไรก็ไม่หมด ดังนั้น หากจะกันไว้สำรองเพื่อดูแลการส่งออก-นำเข้า ก็ควรมีไว้เพียง 5-6 เดือนก็เพียงพอ โดยส่วนที่เหลือจะเป็นวงเงินเท่าไร สัดส่วนเป็นอย่างไรก็จะหารือกัน และนำเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนเพื่อความมั่งคั่งของประเทศ เช่น ลงทุนทองคำ ลงทุนขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม หรือเงินสกุลหยวน ดีกว่าจะปล่อยวงเงินไว้โดยไม่ใช้ประโยชน์ เพราะเงินสกุลดอลลาร์นับวันจะอ่อนค่าลงเรื่อยๆ
"หากมีเงินสำรองไว้ในรูปดอลลาร์ต่อไปเรื่อยๆ ทั้งที่ดอลลาร์อ่อนค่า ก็ไม่ค่อยเมกเซนส์ว่าจะได้ประโยชน์อะไร ดังนั้นจึงน่าจะลงทุนเพื่อประโยชน์ของประเทศโดยรวมมากกว่า โดยเฉพาะแหล่งปิโตรเลียม เพราะนับวันราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น และหายาก การที่เราเข้าไปเป็นเจ้าของแหล่งก็จะช่วยสร้างสำรองพลังงานของประเทศ ในขณะที่ก๊าซในอ่าวไทยก็จะหมดลงในกว่า 10 ปีข้างหน้า" นายพิชัย กล่าว
รมว.พลังงาน ยังระบุว่าจะเร่งคุยกับกัมพูชา เพื่อพัฒนาโครงการปิโตรเลียมทับซ้อนในทะเล เพื่อนำมาเป็นประโยชน์ร่วมกัน เพราะการตีหรือทะเลาะกันก็จะไม่เป็นประโยชน์. - สำนักข่าวไทย
source : http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=440806&ch=ec1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น