วันนี้ 28 (ส.ค.) ที่ จ.พิษณุโลก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อม นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รมว.ศึกษาธิการ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอบางระกำ เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันช่วยเหลือฟื้นฟูปัญหาอุทกภัย อ.บางระกำ ตามโครงการ “บางระกำโมเดล” โดยมีนายปรีชา เรืองจันทน์ ผวจ.พิษณุโลก ให้การต้อนรับ และรายงานสรุปสถานการณ์การแก้ปัญหาว่า จ.พิษณุโลกเริ่มเกิดปัญหาอุทกภัยมาตั้งแต่เดือน พ.ค. จนกระทั่งมาเจอพายุนกเต็น ยิ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมครอบคลุมทั้งหมด 9 อำเภอ 83 ตำบล 652 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 3 หมื่นครอบครัว มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำขณะนี้ถือว่าอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้แล้ว
จากนั้นนายปรีชา ได้รายงานสรุปผลสำเร็จของการแก้ไขปัญหาตามโครงการโมเดลบางระกำ โดยระบุว่าเชื่อว่าจะแก้วิกฤติได้ แต่ถ้าได้เขื่อนขนาดใหญ่สัก 1 เขื่อนก็จะเป็นตัวชี้วัดว่าบางระกำโมเดลได้ผลอย่างแท้จริง เพราะเวลานี้สิ่งที่เราต้องการให้ส่วนกลางสนับสนุนคือแหล่งพักน้ำ จะเป็นวอเตอร์เวย์หรือแก้มลิงก็ได้ นอกจากนี้ยังต้องการงบประมาณในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพิ่มเติมด้วย เพราะขณะนี้เงินทางราชการที่ผู้ว่าฯ ได้รับ 50 ล้านบาทนั้น ใช้ไปแล้ว 40 ล้านบาท แต่ยังเหลือพื้นที่ที่ยังไม่ได้เข้าไปแก้ปัญหาอีกถึง 5 อำเภอ เงินที่เหลืออีกเพียง 10 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งน่าจะไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับปากว่าจะช่วยเหลือ พร้อมกับ กล่าวว่า รู้สึกพอใจในผลงานแต่อยากให้ทางจังหวัดทำภาพรวมเสนอขึ้นมาที่ส่วนกลาง โดยตนจะเชื่อมโยงการแก้ปัญหาในแต่ละจังหวัดแบบบูรณาการ ซึ่งหากโมเดลนี้ได้ผลดี ก็ให้ขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ที่เกิดปัญหาอีก 30 จังหวัดต่อไป ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว ในอนาคตอาจจะประยุกต์ใช้สำหรับแก้ปัญหาน้ำแล้งได้ด้วย
ส่วนการให้ความช่วยเหลือพื้นทีการเกษตรนั้น ตนอยากให้แยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกพื้นที่ที่เห็นอยู่แล้วว่าเกิดความเสียหาย 100 % ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้น้ำลดถึงค่อยประเมินความเสียหาย เพราะต้องเสียเวลา 3-4 เดือน อยากให้หารูปแบบของคณะกรรมการเข้าไปดู เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งอาจจะใช้ภาพถ่ายผ่านดาวเทียมสำรวจก็ได้ หากได้ข้อสรุปแล้วก็ให้ช่วยเหลือทันที 2.พื้นที่ที่ยังไม่แน่ใจความเสียหาย ก็ให้รอน้ำลดแล้วค่อยประเมิน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการสร้าง “เขื่อนแก่งเสือเต้น” ถือว่าอยู่ในบางระกำโมเดลหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การสร้างเขื่อนถือเป็นงานในภาพรวม ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าคำตอบของการแก้ไขปัญหาจะเป็นเรื่องเขื่อนหรือไม่ แต่การแก้ไขปัญหาที่ จ.พิษณุโลก ทั้งแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน จะต้องดูว่าการไหลของน้ำมีปัญหาตรงจุดไหน และจะทำที่กักเก็บหรือแก้มลิงอย่างไร ตรงนี้กรมชลประทานจะไปดูภาพรวมและดำเนินการในอนาคต ส่วนที่มีการเสนอให้ขุดแม่น้ำเทียมและคลอง 20 สายนั้น ตนก็เห็นว่าต้องดูภาพรวมเช่นกัน เพราะถ้าเราแก้ไขปัญหาที่ จ.พิษณุโลกจากการขุดคลอง แต่ไปกระทบจังหวัดอื่น ๆ ก็แก้ปัญหาไม่ได้ จุดมุ่งหมายคือเราต้องการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ
ต่อมาเวลา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ เดินทางไปกราบนมัสการพระครูสุนทรธรรมประภาส หรือหลวงพ่อแขก ที่วัดสุนทรประดิษฐ์ อ.บางระกำ ซึ่ง หลวงพ่อแขกได้แนะนำว่าหากจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใน จ.พิษณุโลกให้ได้แบบถาวร ควรต้องขุดลอกคลองเดิมที่มีอยู่กว่า 20 สายให้ลึก 6 เมตร ก็จะแก้ปัญหาได้ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างเขื่อน ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่าพร้อมรับข้อแนะนำไปพิจารณา แต่ทั้งหมดต้องดูในภาพรวม เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวด้วย จากนั้นได้ส่งพวงมาลาปลุกเสก และนกยูงทอง ซึ่งเป็นเครื่องรางของขลัง ให้นายกหญิง พร้อมกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนประชาชน และมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยที่ อบต.บางระกำ อบต.ท่านางงาม อ.บางระกำ อีกด้วย
source : http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=8&contentID=160032
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น