วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เปิดโปงน้ำมันเถื่อนสนับสนุนเงินโจรใต้

แฉขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนสนับสนุนเงินให้โจรใต้ แถมระบุมีการจ่ายส่วยให้หลายหน่วยงานรัฐ

จากกรณี สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือที่ปรึกษาศูนย์บริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต) ได้เรียกร้องให้ศอ.บต.จับกุม กวาดล้างขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นการเร่งด่วน โดยให้เหตุผลว่าการค้าน้ำมันเถื่อนสร้างความเสียทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ ทำให้รัฐสูญเงินภาษีวันละ 21 ล้านบาท และเงินกำไรจากการค้าน้ำมันเถื่อนยังถูกส่งให้ขบวนการแบ่งแยกดินแดนใช้ในการก่อการร้ายใน 4 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ สงขลา


ความคืบหน้า เมื่อวันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ได้รับการเปิดเผยจาก พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าว่า การค้าน้ำมันเถื่อนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาทับซ้อนที่เกิดขึ้น เนื่องจากขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน มีความสัมพันธ์กับขบวนการแบ่งแยกดินแดน และเงินกำไรจากการค้าน้ำมันเถื่อนถูกส่งให้กับขบวนการแบ่งแยกดินแดน เพื่อใช้ในการก่อความไม่สงบ เช่น การวางระเบิด การฆ่ารายวัน ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนมี.ค.45 เป็นต้นมา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้จับกุมผู้ต้องหา 70 กว่าราย ยานพาหนะกว่า 40 คัน และน้ำมันของกลางจำนวนมาก โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา กำลังทหารสามารถจับกุมเรือประมงดัดแปลง 13 ลำ ขณะลำเลียงน้ำมันจากประเทศเพื่อนบ้านในแม่น้ำสุไหงโก-ลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยสามารถจับผู้ต้องหา 20 คน รถ 6 ล้อบรรทุกน้ำมัน ที่รออยู่ชายฝั่ง 1 คัน และยึดน้ำมันจำนวนมาก โดยเรือบางลำใช้เอกสารปลอมว่าเป็นน้ำมันที่ประมูลได้จากศุลกากร อ.ตากใบ บางลำแสดงใบเสร็จเสียภาษีปลอม โดยเรือที่ขบวนการใช้ในการขนน้ำมันเถื่อนในอ.ตากใบ เป็นเรือประมงดัดแปลง ที่มีระวางบรรทุกน้ำมัน 15,000-18,000 ลิตร


ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่าขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกัน มีทั้งนักการเมือง และผู้นำท้องถิ่น ร่วมมือกับผู้มีอิทธิพล นำเข้าน้ำมันเถื่อน ซึ่งเป็นน้ำมันเบนซินเป็นส่วนใหญ่ ส่งจำหน่ายไปทั่วในจังหวัดภาคใต้ จากการสอบสวนผู้ถูกจับทราบว่า บางส่วนมีการบรรทุกน้ำมัน ด้วยรถ 10 ล้อ และรถ 18 ล้อ ส่งไปยังภาคกลาง ที่ผ่านมาการจับกุมยังไม่ได้ผล เพราะเมื่อจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ได้ แนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน จะตอบโต้เจ้าหน้าที่ด้วยการ ก่อวินาศกรรม หรือฆ่าชาวบ้านเป็นการตอบโต้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่หยุดการป้องกันและปราบปราม รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆในพื้นที่ ยังไม่มีความพร้อมในการจับกุม ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาทับซ้อนเหล่านี้ให้เป็นผลสำเร็จ


แหล่งข่าวความมั่นคงได้เปิดเผยบัญชีรายชื่อขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ที่ให้การสนับสนุนขบวนการแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าเท่าที่สืบทราบ มีดังนี้ 1.เครือข่ายผู้นำท้องถิ่น มีโกดังเก็บน้ำมันในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก ในเขต อ.ตากใบ จำนวน 3 โกดัง มีรถบรรทุกน้ำมันเถื่อน 15 คัน วิ่งบรรทุกน้ำมันส่งขายให้กับผู้ต้องการตลอด 24 ชั่วโมง 2.เครือข่ายของนักธุรกิจน้ำมันเถื่อน และพ่อค้าของเถื่อน ใน จ.ปัตตานี มีเรือดัดแปลงบรรทุกน้ำมัน 50,000 ลิตร 5 ลำ มีรถบรรทุก 15 คัน และมีโกดังเก็บน้ำมันในเขต อ.เมืองปัตตานี 4 แห่ง 3. เครือข่ายกลุ่มค้าของเถื่อนใน จ.ยะลา มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นผู้ให้ความคุ้มครอง มีโกดังเก็บน้ำมันเถื่อนที่ อ.ตากใบ 2 แห่ง และอ.เมืองยะลา 1 แห่ง มีรถบรรทุกน้ำมัน เพื่อใช้ในการขนถ่าย 10 คัน 4. กลุ่มของแนวร่วมคุมพื้นที่ อ.แว้ง อ.สุคิริน อ.จะแนะ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส มีโกดังเก็บน้ำมัน ใกล้กับด่านศุลกากรบูเกะตา อ.แว้ง 5. เครือข่ายของนักการเมืองท้องถิ่นบางคนใน จ.สงขลา และ 6. เครื่อข่ายข้าราชการ นักการเมือง และพ่อค้าบางคน ใน จ.สตูล


ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ได้รับการเปิดเผยว่า การค้าน้ำมันเถื่อนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีอยู่ 2 แบบ คือ ทางบก โดยการใช้รถกระบะดัดแปลง ติดแท็งค์น้ำมัน ตั้งแต่ 2,000 -3,000 ลิตร และการค้าทางทะเล โดยมีเรือประมงดัดแปลง บรรทุกน้ำมันจากเรือบรรทุกน้ำมันกลางทะเล นำส่งยังชายฝั่งอ่าวไทย ตั้งแต่ จ.นราธิวาส ปัตตานี สงขลา สุราษฎร์ธานี โดยแต่ละวันจะมีน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ถูกขนเข้ามาจำหน่ายกว่า 3 ล้านลิตร โดยกว่าร้อยละ 80 เป็นน้ำมันเบนซิน ที่เหลือเป็นน้ำมันดีเซล การนำเข้าน้ำมันเถื่อนจำนวนกว่า 3 ล้านลิตรต่อวัน ทำให้รัฐเสียหายทางด้านภาษี เนื่องจากต้องขาดเงินภาษีลิตรละ 7 บาท ดังนั้นจึงเสียหายวันละ 21 ล้านบาท จากการกระทำของขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนที่เกิดขึ้นกว่า 2 ปี ที่ผ่านมา


ส่วนการลดเงินชดเชยของรัฐบาล ที่ทำให้ราคาน้ำมันเบนซินลดลงลิตรละ 7 บาท และดีเซลลดลงลิตรละ 3 บาท ไม่ได้ทำให้ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนหยุดลงแต่อย่างใด เนื่องจากราคาน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านยังมีส่วนต่างอยู่มาก เช่น น้ำมันเบนซินในประเทศเพื่อนบ้านลิตรละ 19 บาท ดีเซลลิตรละ 17 บาท ซึ่งขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนนำน้ำมันเบนซินมาส่งให้กับผู้ต้องการในประเทศลิตรละ 30 บาท ยังถูกกว่าราคาน้ำมันหน้าปั๊มถึงลิตรละ 5 บาท ส่วนน้ำมันดีเซลมีการส่งขายในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ลิตรละ 23 บาท ในขณะที่ราคาในปั๊มน้ำมันอยู่ที่ 27 บาท จากราคาที่แตกต่างกัน จึงเป็นเหตุให้ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเงินกำไรส่วนหนึ่งนอกจากต้องส่งให้กับขบวนการแบ่งแยกดินแดนแล้ว อีกส่วนหนึ่งยังต้องจ่ายเป็นส่วย ให้กับเจ้าหน้าที่ 5 หน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเปิดไฟเขียวให้ขนน้ำมันเถื่อน



source: http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=160219&categoryID=8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น