วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การเมือง กินเมือง ทาส-พสุธา พูดแล้วทำได้...!จับตาพลังงานไทย-เขมร

มวยแทนชกไม่เลือกข้างเลือกสี “ทาส-พสุธา” ติดภารกิจด่วน รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฟอร์มคณะรัฐมนตรียังไม่ทันแถลงนโยบาย ฝ่ายค้านมืออาชีพถาวรอย่างประชาธิปัตย์ก็ออกมาแถลงว่าจะตั้ง ครม.เงากันเสียแล้ว งานนี้คงไม่ต้องเร่งรีบอะไรมากมาย เพราะประชาธิปัตย์คงจะต้องดำรง ตำแหน่ง ครม.เงาไปอีกนาน หากพรรคเพื่อไทยไม่เดินหกล้มสะดุดขาตัวเองเสียก่อน

นโยบายเร่งด่วนที่หาเสียงไว้กับประชาชนทั้งประเทศต้องทำให้ได้ แม่ทัพนายกองเสนาบดีต่างออกมาให้คำมั่นพร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียง ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท หรือปริญญาตรี เงินเดือน 1.5 หมื่นบาท ทำได้แน่นอนภายในสิ้นปีนี้ จับตากระทรวงคมนาคมยุค พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มี 2 รัฐมนตรีช่วย อย่าง พลตำรวจโท ชัชจ์ กุลดิลก และ นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ขับเคลื่อนจะไปในทิศทางใด ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ที่องค์การ ขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เคยเสนอแต่ถูกตีกลับจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด

จะด้วยสาเหตุใดนั้นก็สุดจะคาดเดา บ้างก็ว่าเป็นไอเดียของพรรคไทย รักไทยเดิม หรือว่าผลประโยชน์ของพรรคภูมิใจไทยที่มีวาระซ่อนเร้นขมุกขมัว แต่ที่แน่ๆ พลอากาศเอกสุกำพลยืนยันด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่าจะ ดำเนินการโครงการนี้ต่ออย่างแน่นอน รวมถึงการยกเครื่องบอร์ดการบินไทย ด้วยการส่งนายทหารอากาศบัญชาการแทน ฟังกันให้ชัดๆ รถไฟฟ้า 10 เส้นทาง ราคา 20 บาทตลอดสาย เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าจะทำได้อย่างแน่นอน “ฆ่าได้..หยามไม่ได้” ใครที่ปรามาสไว้ขอให้รอดู จัดไปอย่าให้ขาด พวกฝ่ายค้านที่เก่งแต่ค้านพอเป็นรัฐบาลกลับเอาเวลาไปไล่ล่าทักษิณ ชินวัตร คงหูตาสว่างขึ้นมาบ้าง แท้จริงแล้วโลกนี้มันกว้างใหญ่กว่ากะลา

เห็นรอยยิ้มของพี่น้องชาวไทยและกัมพูชาที่อยู่บริเวณแนวชายแดน หลังชัยชนะที่เหนือชั้นของรัฐบาลเพื่อไทย ทำให้ความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์กลายเป็นฝันร้ายที่กำลังจะถูกลืมเลือนไปในไม่ช้า โดยเฉพาะเสียงสัญญาณแห่งมิตรภาพที่สมเด็จฮุนเซนแสดงความยินดีกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และพร้อมที่จะจับมือร่วมกันพัฒนาสองประเทศให้มีความมั่นคง “เปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้า” กลับมาเปิดโต๊ะหารือกันสองต่อสองโดยไม่ต้องให้ประเทศที่สามเข้ามาไกล่เกลี่ย ความหวังที่จะ พัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทรัพยากรในพื้นที่ทับซ้อนอ่าวไทยดูช่างมีอนาคตสดใสเหลือเกิน
งานนี้สปอตไลต์ต้องโฟกัสไปที่ “พิชัย นริพทะพันธุ์” ในฐานะ เจ้ากระทรวงพลังงานคนใหม่ ที่ได้รับเสียงตอบรับจากแวดวงคนพลังงานอย่างอบอุ่นและมีความหวังที่จะขับเคลื่อนประเทศชาติไปพร้อมกับรัฐบาล หนึ่งในคอมเมนต์นั้นคือ “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ที่เจ้าตัวบอกว่า แม้ตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับ รมว.พลังงานป้าย แดง แต่เท่าที่เห็นประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา ที่จบปริญญาตรีทาง ด้านเศรษฐศาสตร์ และปริญญาโท ทางบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งบทสัมภาษณ์ผ่านสื่อเกี่ยวกับนโยบายทางด้านพลังงาน รู้สึกมีความ ประทับใจ และเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีจุดยืน ในเรื่องพลังงานค่อนข้างชัดเจน

อาทิ เรื่องของการสนับสนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ การเร่งเจรจาพื้นที่ทับ ซ้อนทางทะเล ระหว่างไทยกับกัมพูชาให้ได้ข้อยุติ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ ทั้งไทยและกัมพูชา โดยปริมาณก๊าซธรรมชาติ ในอ่าวไทย เท่าที่มีสัมปทานอยู่นั้น ในอนาคตจะมีปริมาณที่ลดลง จำเป็นต้องมีการต่ออายุสัมปทานเพิ่ม หรือการได้ก๊าซธรรมชาติในแหล่งพื้นที่ทับซ้อนเข้ามาเสริมความมั่นคงให้กับประเทศ
แก้ไข ใช่ล้างแค้น นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ต้องเร่งพิสูจน์ฝีมือ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น หากเห็นทำมากกว่าพูด รับรองเลือกตั้งกี่สมัยก็ไม่ต้องเสียเงินแม้ แต่บาทเดียวในการหาเสียง เพราะรัฐบาลมีความจริงใจที่จะทำบ้านเมืองให้ กลับคืนสู่ความสงบสุข สร้างมิตรไม่ใช่สร้างศัตรู โดยเฉพาะมิตรประเทศเพื่อนบ้าน ต้องให้เกียรติกันและกัน ไม่ใช่เห็นเขาเป็นประเทศเล็กด้อยพัฒนา

จะไปว่าไปกล่าวตำหนิจิกหัว “ไอ้กุ๊ย” อย่างนั้นอย่างนี้ ใครมันจะไป ยอมใครกันล่ะขอรับ สองมือสองเท้าเท่ากัน ใช่ไหมล่ะครับท่านอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือว่าท่านกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ คิดอ่านการใดถึงวันนี้คงได้สติกลับคืนมาบ้างกระมัง ต้องคืนความเป็นธรรมให้กับข้าราชการที่ถูกอำนาจมืดบอดทางการเมืองกลั่นแกล้ง กระทรวงมหาดไทยยุคเสนาบดี มท.1 “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” ต้องเช็กบิลถอนรากถอนโคนพวกเด็กผีเด็กเส้นเด็กห้อยโหน เกิดจากการเมืองก็ตายเพราะการเมือง อย่าคิดมาก “วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์” อธิบดีกรมการปกครองคือแบบอย่างของข้าราชการที่ไม่ยอมตนต่ออำนาจมืดบอด

วันนี้แม้เขาจะเหลือเวลาราชการไม่มากมายนัก แต่ทุกวินาทีของเขา มีค่าที่จะดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พ่อแม่พี่น้องประชาชน เพราะไม่ต้องเปลืองสมองไปกับการเอาอกเอาใจฝ่ายการเมืองขี้โกง ที่วันๆ เอาแต่คอย นั่งคิดว่าจะฉีกงบประมาณแผ่นดินเข้ากระเป๋าตัวเอง ท้ายสุดพรรคการเมือง นักการเมืองน้ำเน่าก็ถูกประชาชนสั่งสอนเอง
source: http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413355010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น