วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Green Logistics บิ๊กซีปักธง‘ขนส่งสีเขียว’

การบริหารด้วยระบบลอจิสติกส์ (Logistics) เป็นกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการการนำส่งสินค้าจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค และช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ให้แก่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมทั้งในแง่การลดต้นทุนการผลิต การสร้างมูลค่าเพิ่ม การประหยัดพลังงาน และการรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันด้วย

และปัจจุบันในเวทีโลกได้ให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม อาทิ มลภาวะในอากาศที่ เกิดจากการขนส่ง การใช้พลังงานในกระบวนการ ผลิต และการใช้วัสดุด้านบรรจุภัณฑ์ จึงทำให้ Green Logistics จึงได้เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้น ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมด้านลอจิสติกส์ตลอดโซ่อุปทาน ตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและหนึ่งองค์กรที่ถือว่ามีความเกี่ยวข้องในเรื่องของระบบการขนส่งอย่าง บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ก็ให้ความสำคัญในเรื่อง Green Logistics เช่นกัน

นายเกรก โอเชียร์ รองประธานฝ่ายการจัดการซัพพลายเชน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า ระบบการขนส่งถือเป็นหัวใจหลักอย่างหนึ่งของความสำเร็จ ของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และเนื่องจากเราใช้การขนส่ง 24 ชั่วโมง ในทุกๆ วัน ดังนั้น ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ริเริ่มโครงการที่จะทำให้ ระบบการขนส่งของบิ๊กซีมีประสิทธิภาพ และช่วย รักษาสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อตอนต้นปี ได้มีโครงการผ้าหอมเย็น ซึ่งเป็นการใช้ผ้าหอมเย็น แทนการใช้รถตู้เย็นขนสินค้า เพื่อช่วยลด คาร์บอนไดออกไซด์มาแล้ว และล่าสุดจึงได้คิดค้น “ระบบขนส่งสีเขียว” เพื่อให้การขนส่งของเราเป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม ช่วยประหยัดพลังงาน และลดภาวะโลกร้อนได้มากที่สุด

“บิ๊กซีฯ ได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ 2 ราย คือ กลุ่มสยามมิชลิน และบริษัท โทลล์ โลจิสติกส์ จำกัด ในการลงนามบันทึกความเข้าใจ ร่วมมือสร้าง “ระบบขนส่งสีเขียว” ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ด้านการขนส่งที่ไม่เคยมีการใช้ใน ประเทศไทยมาก่อน และการจัดการระบบขนส่ง ที่ดีมาพัฒนาให้ระบบขนส่งของบิ๊กซีมีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยั่งยืนมากที่สุด โดยมีเป้าหมายที่จะลดจำนวนการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 1 ล้าน 8 แสนกิโลกรัม ภายในสิ้นปี 2557 เพื่อสนับสนุนโครงการรณรงค์ลดคาร์บอน 84 ล้านกิโลกรัม เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา”

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปี 2557 บิ๊กซีจะใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท ในการนำความคิดและเทคโนโลยีใหม่ๆ ของการขนส่งไปพัฒนาระบบขนส่งสีเขียวของ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้มากที่สุด โดยในปีนี้ซึ่งเป็นการดำเนินการขั้นแรก

โดยบิ๊กซีจะนำนวัตกรรมการขนส่งที่ไม่เคยมีการใช้ในประเทศไทยมาก่อน มาพัฒนารถขนส่งของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ให้มีความสามารถในการบรรจุของและรับน้ำหนักได้มากขึ้น และช่วยลดก๊าซสคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 47% นอกจากนั้น จะใช้ยางประหยัดพลังงานของกลุ่มมิชลินเพื่อช่วยลดการใช้พลังงานเพิ่มเติมอีก 4% และจะมีบริษัท โทลล์ โลจิสติกส์ เป็นผู้ดูแล ฟลีทรถให้มีประสิทธิภาพและประหยัด พลังงานที่สุด

สำหรับรถขนส่งสีเขียว (Specialised Drop Deck Trailer) ของบิ๊กซี จะมีนวัตกรรมใหม่ ดังนี้

1.ระบบพื้นวางสินค้าในรถแบบเคลื่อนที่ได้ (Moveable Mezzanine Floor) ซึ่งจะทำให้สามารถบรรจุสินค้าขนาดต่างๆ กัน บนแท่นวางของขนาดต่างๆ กัน เข้าในตัวรถได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นของพื้นที่บรรจุ โดยจะสามารถบรรจุสินค้าได้ถึง 44 แท่นบรรจุ (pallet) และรับน้ำหนักรวมได้ถึง 57 ตัน

2.ระบบฝาข้างรถแบบพับได้ (Curtain-sided Trailer) ทำให้การขนของขึ้น-ลงง่ายและรวดเร็วขึ้น

3.ยางรถที่ช่วยลดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมิชลินได้พัฒนายางรถยนต์ ที่มีประสิทธิภาพช่วยประหยัดน้ำมันและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการลดปริมาณการใช้วัตถุดิบและลดจำนวนการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย

4.รถรับส่งสินค้าแบบเฉพาะที่ (Dedicated Transport Shuttles) ซึ่งเป็นผลการศึกษาของบิ๊กซี ว่า เมื่อบิ๊กซีมีสาขาเพิ่มขึ้นและมีความต้องการสั่งสินค้าล็อตใหญ่ขึ้น หากมีการใช้รถขนส่งเพื่อรับส่งสินค้าจากผู้ผลิตรายใหญ่ ไปที่ศูนย์กระจายสินค้าของบิ๊กซีโดยเฉพาะโดยไม่ต้องแวะที่อื่น โดยจัดท่ารับส่งแยกต่างหาก (Dedicated Dock) ให้สินค้าดังกล่าว จะช่วยลดวงจรและขั้นตอนการขนส่งสินค้า ทำให้การ ขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างตรง รวดเร็ว ทันต่อความต้องการ และช่วยลดการเก็บสต็อกสินค้าด้วย “ในปี 2555 บิ๊กซีได้เตรียมงบประมาณอีกกว่า 200 ล้านบาท ในการพัฒนาประสิทธิภาพของ “ระบบขนส่งสีเขียว” ให้ครอบคลุมด้านต่างๆ มากขึ้น ตามคอนเซปต์ “บิ๊กซี..ใหญ่ขึ้น และให้คุณได้มากกว่า” นาย เกรก กล่าวทิ้งท้าย
source : http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413354694

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น