วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เบนซินลดทันทีหลังแถลงต่อสภา แก๊สโซฮอล์ราคาเดิม-ดีเซลขึ้นแบบขั้นบันได

รมว.พลังงาน แจงลดราคาเบนซินทันที หลังแถลงนโยบายต่อสภา คนเติมแก๊สโซฮอล์ใช้ราคาเดิม ดีเซลจ่อขยับขึ้นแบบขั้นบันได 5 บาท ตั้งเป้าในปี 58 ปล่อยราคาตามกลไกตลาด
      
       นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตั้งเป้าภายในปี 2558 จะเป็นปีที่ขีดเส้นตายว่าราคาพลังงานทุกประเภทจะลอยตัว เนื่องจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ACE) จะมีผลบังคับใช้ หากจะมีการอุดหนุนกันอยู่ ประเทศอื่นก็จะเข้ามาซื้อขายพลังงานในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องทำให้ราคาเท่าเทียมกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพิจารณาว่าประชาชนของประเทศมีรายได้เพียงพอที่จะรับภาระการลอยตัวดังกล่าวหรือไม่ ถ้าดำเนินการแล้วมีปัญหาก็อาจจะมีการทบทวน

รมว.พลังงานคาดว่าจะปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเร็วกว่ากำหนดเดิมในเดือนธันวาคม 2554 หลังจากมาตรการยกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากดีเซลจะหมดอายุลงในสิ้นเดือนกันยายน 2554 เนื่องจากเห็นแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงเร็วกว่าที่คาด จากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปชะลอตัว และสถานการณ์ความตึงเครียดในลิเบียคลี่คลาย

“น่าจะทยอยปรับขึ้นมากกว่าคงไม่ได้ปรับทีเดียว 5.83 บาทต่อลิตร ปีนี้เชื่อว่าราคาตลาดน้ำมันปรับลง ราคาซื้อขายล่วงหน้าก็ไม่ดี แต่ก็ต้องติดตาม ต้องดูระยะใกล้ก่อนพิจารณาต้องหารือกับรองนายกรัฐมนตรี”

สำหรับการยกเลิกการเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซล นายพิชัยกล่าวว่า จะดำเนินการทันทีหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยที่ปัจจุบันใช้รถจักรยานยนต์ 17 ล้านคน รถยนต์เก่า และรถที่ใช้ในการเกษตร แม้ว่าหลังจากนั้นราคาน้ำมันเบนซิน 91 จะอยู่ที่ 35.24 บาท สูงกว่าราคาแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 34.54 บาท หรือสูงกว่าเพียง 0.70 บาทต่อลิตร และราคาต่ำกว่าราคาแก๊สโซฮออล์ 95 อยู่ที่ 37.04 บาท (ราคาปัจจุบัน)

รัฐบาลจะหาแหล่งเงินจากเงินกู้จากสถาบันการเงิน หรือออกพันธบัตร เพื่อนำเงินไปอุดหนุนราคาก๊าซแอลพีจี และก๊าซเอ็นจีวี อย่างไรก็ดี ย้ำว่าการยกเลิกการเก็บเงินกองทุนน้ำมันดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการระยะสั้นเพื่อช่วยหลือประชาชนก่อนในช่วงที่ประชาชนรายได้ไม่สูง และรายจ่ายมาก ส่วนผลกระทบต่อภาคเอกชนรัฐบาลมีแผนจะดำเนินการแล้ว แต่ทั้งหมดขอให้มีการแถลงนโยบายก่อนและจะประกาศรายละเอียดในภายหลัง

นอกจากนั้น รัฐบาลจะทบทวนนโยบายใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยต่อเดือน มี่ความเป็นไปได้อาจจะลดจำนวนหน่วยที่ใช้ไฟฟ้าฟรี แต่จะไม่ยกเลิกนโยบายดังกล่าว

พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะผลักดันโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมชายฝั่งอันดามัน-อ่าวไทย (แลนด์บริดจ์) เพื่อรองรับการลงทุนของต่างประเทศในอนาคต โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย อีกทั้งจะผลักดันโครงการรถคันแรก ซึ่งจะช่วยเพิ่มการใช้รถในไทย ยิ่งทำให้ญี่ปุ่นสนใจเข้าลงทุนในไทย

นอกจากนี้จะมีการทบทวนแผนพัฒนาผลิตไฟฟ้าระยะยาว (PDP) ที่เป็นงานแรกๆ หลังรัฐบาลแถลงนโยบายแล้ว โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และโรงไฟฟ้าถ่านหินได้รับการต่อต้าน แต่ก๊าซธรรมชาติก็จะหมดลงในไม่ช้า รัฐบาลต้องตัดสินใจว่าประเทศจะเดินไปอย่างไร ขณะเดียวกันไทยไม่ต้องการพึ่งพิงพลังงานจากต่างประเทศหรือลาวมากเกินไป ซึ่งปลัดกระทรวงพลังงานได้ตั้งหน่วยงานใหม่มุ่งเน้นทำความเข้าใจชุมชนท้องถิ่นเหมือนเอ็นจีโอ

นายพิชัยกล่าวว่า การเสนอให้นำเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพบางส่วนไปจัดตั้งกองทุนมั่งคั่งและเลือกลงทุนสินทรัพย์อื่น ได้แก่ ทองคำ น้ำมัน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีนั้น เป็นเพียงกรอบความคิด ซึ่งก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าธปท.สนับสนุนแนวคิดนี้ก่อนเลือกตั้ง ทั้งนี้ เห็นว่าจีนได้นำเงินกองทนสำรองฯไปลงทุนสินทรัพย์อื่นและได้ผลตอบแทนที่ดี ขณะที่การลงทุนในน้ำมันเพื่อให้ไทยมีแหล่งพลังงานที่สร้างความมั่นคงให้กับประเทศด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น