กรมธุรกิจพลังงานแจงยอดใช้พลังงาน 6 เดือน แอลพีจี-เอ็นจีวีพุ่ง สาเหตุน้ำมันแพงคนใช้ลดลง
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) เปิดเผยถึงสถานกาณณ์การใช้พลังงานในช่วง 6 เดือนแรก ของปี 2554 (ม.ค.-มิ.ย.) พบว่า ปริมาณการใช้ก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) อยู่ที่วันละ 1.78 หมื่นตัน/วัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 24%เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การใช้ก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี) อยู่ที่วันละ6,300 ตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 35% ซึ่งสาเหตุที่มีปริมาณการใช้สูงขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาปรับสูงขึ้นต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ใช้เบนซินหันมาเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นแอลพีจีและเอ็นจีวี ที่มีราคาถูกกว่า และรัฐบาลยังตรึงราคาต่อไป
สำหรับปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในภาพรวมยังปรับเพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยกลุ่มเบนซินมีปริมาณการใช้วันละ 20.4 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 2% ส่วน กลุ่มดีเซลอยู่ที่วันละ 54.1 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 4% ทางด้านการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรกมีปริมาณ8.51 แสนบาร์เรล/วันลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2% แต่มูลค่านำเข้ารวม 5.06 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 26% เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกสูงขึ้นเฉลี่ย 106 เหรียญสหรํฐ/บาร์เรล จากปีก่อนราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 77 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยคาดการณ์ว่าเฉลี่ยทั้งปีจะนำเข้าจะอยู่ที่ระดับ 8.31 แสนบาร์เรล/วันหรือขยายตัวจากปีที่แล้ว 1.8% โดยมูลค่านำเข้าจะอยู่ระดับ 1-1.1 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะเดือนมิถุนายน 2554 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2554 ทุกชนิด แต่เป็นอัตราการขยายตัวที่ไม่หวือหวานักเมื่อเทียบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยการใช้กลุ่มน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% จาก 19.7 ล้านลิตร/วัน มาอยู่ที่ 20.7 ล้านลิตร/วัน ส่วนการใช้กลุ่มน้ำมันดีเซลมีปริมาณใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 54.4 ล้านลิตร/วัน โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.1%
“การใช้เบนซินเพิ่มขึ้นทุกชนิด ยกเว้นเบนซิน 95 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเดือนมิถุนายนเป็นเดือนที่มีการหาเสียงเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า โดยแบ่งเป็นการใช้น้ำมันเบนซิน 91 และ 95 รวมอยู่ที่ 8.ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 9% และการใช้แก๊สโซฮอล์รวมอยู่ที่ 12.7 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 3% ส่วนการใช้ดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (บี 3) 53.0 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากเดือนก่อน 0.7% เนื่องจากเป็นช่วงหมดฤดูพืชผลทางเกษตร ทำให้มีการใช้รถบรรทุกลดลง
source : http://www.posttoday.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น