พลังงาน-กทม.จับมือ ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน-พลังงานทดแทน พร้อมเดินหน้าพัฒนา 7 ด้าน เริ่มจากโครงการหลอดประหยัดไฟ ทั้งในโรงเรียน โรงพยาบาล และอาคารควบคุมอีก 15 แห่ง เตรียมลุยเฟส 2 โรง ผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลฝอยอินทรีย์ และโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน และ นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และการพัฒนาด้านพลังงานทดแทน
นายณอคุณ กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน พร้อมจะให้ความร่วมมือในการสนับสนุนทางวิชาการและงบประมาณบางส่วนในการดำเนินโครงการและกิจกรรมของกรุงเทพมหานคร ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องทุกปี ในด้านการอนุรักษ์พลังงานทดแทน และการส่งเสริมพลังงานทดแทน โดยเบื้องต้นจะให้ความร่วมมือภายใต้กรอบเอ็มโอยูดังกล่าวใน 7 ด้าน ได้แก่ การเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าประหยัดพลังงาน การจัดหลักสูตรและสนับสนุนวิทยากรเพื่อการอบรม การใช้พลังงานในอาคารแก่บุคลากรของกรุงเทพมหานคร การเผยแพร่ความรู้ด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนให้กับภาคเอกชน การสร้างจิตสำนึกการใช้พลังงานภายในโรงเรียน การผลิตก๊าซชีวภาพจากขยะมูลฝอยอินทรีย์ และการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ และด้านการอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานทดแทนอื่นๆ ตามที่กรุงเทพมหานครจะเห็นว่าเหมาะสม
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน เชื่อว่า ผลที่ได้รับจากความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐขนาดใหญ่ เกิดประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างสูงสุด และมีการนำพลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงานไปใช้ในทุกภาคส่วน อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กรุงเทพมหานคร เป็นหน่วยงานที่ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และยังเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายจากแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี และแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปีของกระทรวงพลังงานอีกด้วย
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีความร่วมมือกันอยู่แล้ว และยังอยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น การเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าประหยัดพลังงาน T5 จำนวน 13,000 หลอด ในโรงพยาบาลนำร่อง 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกลาง และโรงพยาบาลตากสิน และจะเปลี่ยนหลอดในอาคารควบคุมของ กทม.อีก 15 แห่ง ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2554 นี้
การติดตั้งระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลฝอยอินทรีย์ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 164 แห่ง ดำเนินการแล้ว 80 แห่ง และกำลังดำเนินการอีก 84 แห่ง โดยสามารถรองรับขยะอินทรีย์ได้มากถึง 40 กิโลกรัมต่อวัน รวมทั้งการติดตั้งระบบผลิตน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะติดตั้งที่โรงพยาบาลกลาง และโรงพยาบางเจริญกรุงประชารักษ์
source : http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9540000088846
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น