วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พลังงานมหาศาลจากดวงจันทร์

ดวงจันทร์มีแหล่งแร่ฮีเลียม 3 ซึ่งสามารถใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตพลังงานนิวเคลียร์ได้จำนวนมหาศาล แร่นี้พบมากมายในดวงจันทร์และมากกว่าในโลกใบนี้อย่างมาก

ดร.เจอรัลด์ คัลซินสกี ศาสตราจารย์ทางวิศวกรรมนิวเคลียร์แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ซึ่งจำเป็นต้องใช้ฮีเลียม 3 เพื่อการทำวิจัยปฏิกรณ์ฟิวชั่นได้กล่าวว่า ฮีเลียม 3 แพงขึ้นทุกวัน เมื่อ 2-3 ปีก่อนราคากรัมละ 30,000 บาท ตอนนี้ราคา 210,000 บาทต่อกรัม ปีหน้าราคาอาจจะถึง 300,000 บาทต่อกรัม

ดร.คัลซินสกี ได้กล่าวว่า โลกใบนี้มีฮีเลียม 3 แค่ 30 กิโลกรัมเท่านั้น และรัฐบาลสหรัฐก็มักจะเก็บความลับเรื่อง ฮีเลียม 3 เพราะถ้าจะใช้เป็นอาวุธนิวเคลียร์ก็ย่อมได้ หรือถ้าทำเป็นพลังงานสะอาดเพื่อผลิตไฟฟ้าประเภทนิวเคลียร์ก็ได้เช่นกัน

และก็ได้พบเช่นกันว่าถ้าหากใช้ฮีเลียม 3 เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าจากปฏิกิริยานิวเคลียร์จะมีความปลอดภัยดีกว่าแร่ธาตุอย่างอื่น ๆ มาก และจะได้ตัดโอกาสที่จะนำไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์เพื่อทำลายล้างโลก เพราะจากการทดลองการทำวิจัยของ ดร.คัลซินสกีพบว่า แร่ธาตุนี้ไม่มีกากกัมมันตภาพรังสีเลย

ทีมงานวิจัยก็ได้พบอีกเช่นกันว่าที่ดวงจันทร์มีแร่ธาตุนี้มากมายกว่าโลกมหาศาล ประมาณการว่าประมาณถึง 1 ล้านตัน หรือประมาณพันล้านกิโลกรัม มากกว่าที่มีอยู่บนโลกนี้กว่า 30 ล้านเท่า

คำนวณเป็นราคาบนโลกนี้เท่าไร ก็ลองคูณกันดูประมาณ 300,000 ล้านล้านบาทในขณะนี้ แต่อีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้า ราคาจะกระฉูดไปถึงไหนไม่รู้ แต่มนุษย์บนโลกจะไปเอามาอย่างไร น่าคิด เพราะค่าเดินทางจากโลกไปดวงจันทร์แล้วไปตั้งโรงงานที่ดวงจันทร์เพื่อขุดเจาะเอาฮีเลียม 3 มาแล้ว บรรทุกส่งมายังโลกอีกครั้งคงจะไม่ใช่ของถูก ๆ หรือของเล่น ๆ

กลุ่มนักบินอวกาศอะพอลโล 17 คน และนักธรณีวิทยาที่ชื่อ แฮริสัน ชมิทท์ ได้วิจารณ์ว่าสหรัฐอเมริกาล้าหลังเรื่องการกลับไปสู่ดวงจันทร์มานาน โดยเฉพาะองค์การนาซ่า แต่ก็ได้มีการคำนวณประมาณการว่า ถ้าให้เอกชนทำโครงการนี้น่าจะใช้เงินประมาณ 450,000–600,000 ล้านบาท ในช่วง 2 ทศวรรษหน้า ก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไป เพราะโครงการวิจัยด้านปฏิกรณ์เทอร์โมนิวเคลียร์ที่มีอยู่ปัจจุบันก็ประมาณ 540,000 ล้านบาท

แต่กลุ่มนักวิจัยที่ห้องปฏิบัติการของ ดร. คัลซินสกีที่เมดิสัน มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ก็ยังคงวิจัยเรื่องนี้ไม่หยุดโดยหวังที่จะผลิตพลังงานไฟฟ้าจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่สะอาดไม่มีกากกัมมันตภาพรังสีและยังจะมีเวลาทำการวิจัยได้อีกนาน ดูเหมือนว่าอีกนานกว่าจะคุ้มค่าการลงทุน

นอกจากนี้ยังคงจะต้องทำอย่างไร ให้รัฐบาลอเมริกันได้หันมาลงทุนเรื่องการส่งคนไปดวงจันทร์อย่างจริงจังอีกสักรอบ กลุ่มทีมงานนักบินอวกาศอะพอลโลและ ดร.ชมิทท์ ได้คุยกลุ่มนักวิจัยด้านพลังงานนิวเคลียร์ของมหาวิทยาลัยวิสคอนซินแล้วสรุปได้ว่าพลังงานบนดวงจันทร์จากแร่ธาตุฮีเลียม 3 นี้มีมากกว่าพลังงานที่เกิดจากซากพืชซากสัตว์หรือฟอสซิล ถึง 10 เท่า และจะสามารถทำให้โลกสามารถมีพลังงานสะอาดใช้ได้ถึงนับพันปี

พิจารณาดูแล้วผมให้กำลังใจและสนับสนุน ดร.คัลซินสกีเต็มที่ แต่อีกกี่สิบปีข้างหน้าจะมีพลังงานชนิดใหม่สะอาดให้ชาวโลกได้ใช้ก็ยังคอยกันได้ แต่งานนี้คงจะต้องออกแรงอีกมาก และเมืองไทยคงจะต้องตามข่าวกันไปเรื่อย ๆ .

รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล
อธิการบดี มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
boonmark@stemford.edu

source : http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=322&contentID=153479

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น